อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบข้อมูลของ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ในคลังศูนย์ข้อมูล ไทยรัฐ พบว่า กรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นบนเวทีประกวดนางงามลักษณะดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเวทีไทย และนานาชาติ ซึ่งจะดุเดือดเลือดพล่านแค่ไหน ติดตามได้ในวันนี้...
มิสฟิลิปินส์ เจ้าของนางงามจักรวาลปีล่าสุด
อ่านชื่อถูก มอบรางวัลผิด โปรดิวเซอร์ด่ากราด ถอดมงกุฎคืน
เรื่องอื้อฉาวเรื่องแรก เกิดขึ้นที่ การประกวดมิสซิสเวิลด์ ปี ค.ศ.2006 ที่จัดขึ้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย...เมื่อวินาทีแห่งความระทึกใจ สิ้นสุดลง หลังพิธีกรบนเวทีประกาศชื่อผู้ที่ได้รับตำแหน่ง รองอันดับหนึ่ง และมิสซิสเวิลด์ ปี 2006 ด้วยความที่พิธีกร ประกาศผู้ได้รับรางวัลรองอันดับ 1 และผู้ชนะติดกัน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงทำให้มีการมอบมงกุฎให้กับสาวงามผิดคนเข้าจังเบอร์!
โดยทันทีที่สิ้นเสียงประกาศ ผู้ทำหน้าที่มอบรางวัลบนเวที ก็เข้าไปสวมมงกุฎและสายสะพายให้กับ Andrea Bermudez-Romero Mrs.Costa Rica ซึ่งถูกเอ่ยชื่อเป็นคนแรกว่าได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 ทันที ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องแบบงงๆ ของกองเชียร์ และเพื่อนสาวงามที่อยู่บนเวที รวมทั้ง Sofia Arzhakovskaya Mrs Russia ผู้ชนะตัวจริงด้วย กระทั่งเสียงเพลงกระหึ่มเฉลิมฉลอง และการเข้ารุมล้อมสวมกอดแสดงความยินดี จากบรรดาเพื่อนสาวงามจากประเทศอื่นๆ ยังไม่ทันสิ้นเสียงดี
มิสรัสเซีย กับ คอสตาริกา ประกาศชื่อถูกแต่ให้รางวัลผิด
โปรดิวเซอร์ ผู้ดูแลการประกวดและถ่ายทอดสด ก็ขึ้นไปหลังเวทีด้วยอาการฉุนเฉียว พร้อมกับตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า "ผู้ที่ได้สวมมงกุฎปีนี้ คือ นางงามจากรัสเซีย" ทุกอย่างจึงค่อยคลี่คลายความมึนงง และ นางงามจากคอสตาริกา จึงต้องจำใจคืนมงกุฎ ที่เธอเพิ่งสวมได้ไม่ทันไร คืนให้กับผู้ชนะที่แท้จริงคาเวที ด้วยรอยน้ำตา
โอววว…มายก๊อด ประกาศผู้ชนะผิดคน
ส่วนอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่เวทีประกวดขาอ่อน แต่ก็ใกล้เคียง เมื่อการประกวด Australia's Next Top Model ในปี ค.ศ.2010 ก็ได้เกิดดราม่า เคล้าน้ำตาเช่นเดียวกัน เมื่อพิธีกรสาวชื่อดัง Sarah Murdoch ประกาศชื่อผู้ชนะผิดคน! คาเวที และต่อหน้าผู้คนหลายล้านคน ที่เฝ้ารอดูการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในครั้งนั้น
โดยเธอไปประกาศชื่อ Kelsey Martinovich เป็นผู้ชนะ ทั้งๆ ที่ ผู้ชนะที่แท้จริง คือ Amanda Ware ที่ยืนหน้าเศร้าๆ อยู่ข้างๆ หลังการประกาศผิดพลาดในครั้งนั้น และอีกเช่นกัน ยังไม่ทันที่เสียงไชโยโห่ร้องและเสียงเพลงบรรเลงกระหึ่มแสดงความยินดี รวมทั้งการสวมกอดจากผู้ทำหน้าที่ผิดพลาด จะจางหาย พิธีกรสาวชื่อดังผู้นี้ ก็แทบน้ำตาเล็ด เมื่อต้องเอ่ยคำว่า โอววว มายก๊อด ขออภัยอย่างรุนแรง ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จนเล่นเอา Kelsey ผู้ชนะถึงกับชะงักงันไปชั่วครู่...แทบจะปรับอารมณ์ไม่ทัน ท่ามกลางการถ่ายทอดสดที่ยังดำเนินต่อไป
เปิดตำนานฉาวเวทีขาอ่อนไทย "แสงระวี" โดนกระชากมงกุฎ
2 เคสแรกเป็นของเวทีในต่างประเทศ คราวนี้มาถึงที "พี่ไทย" ก็มีเรื่องอื้อฉาวปนความริษยา ดังกับละครน้ำเน่าเช่นกัน เมื่อวันที่ 20 ก.ย.29 เวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ในปีนั้น ใครจะคิดว่าการเฟ้นหาเทพีแห่งความงาม สวยสง่า จะกลายเป็นฉากบู๊ฝุ่นตลบ!?!
งานดังกล่าวจัดกันอย่างมาราธอน งานเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ มีสาวงามเข้าร่วมประกวด จำนวน 20 คน โดยในรอบแรก หลักการให้คะแนนแบ่งเป็นดังนี้ ใบหน้า 30 คะแนน รูปร่าง 20 การเดิน 10 ไหวพริบปฏิภาณ 20 ท่าทาง 10 คะแนน และลักษณะส่วนตัวอีก 10 คะแนน รวมกันเป็น 100 คะแนน จากนั้นก็มีการคัดให้เหลือ 10 คน จากนั้นจะมีการตอบคำถามจากกรรมการอีก 30 คะแนน และคัดให้เหลือ 3 คน และตอบคำถามเดียวกัน
กระทั่งเวลา 01.30 น. ของวันใหม่ ก็ได้คัดเลือกเหลือ 3 คนสุดท้ายประกอบด้วยน.ส.ดวงเดือน จิไธสงค์, น.ส.ศุภรานันทน์ พันธุ์ชูจิต และ น.ส.แสงระวี อัศวรักษ์ ซึ่ง น.ส.แสงระวี นี่ถือเป็นตัวเต็ง เนื่องจากเป็นหลานสาวของ "เสธ.ทวี" หรือ พล.อ.อ.ทวี จุลทรัพย์
วินาทีแห่งชัยชนะของ แสงระวี
มิสไทยแลนด์เวิล์ด ปี พ.ศ.2529
แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีรายงานว่า หลังจากประกาศผลตัดสิน ก็ได้เกิดเหตุวุ่นวายตามมา โดยมีคนเห็นผู้ประกวดรายหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับตำแหน่ง ได้บุกขึ้นไปบนเวทีแล้วกระชากมงกุฎจากศีรษะ "แสงระวี" แล้วส่งให้กับ "ดวงเดือน จิไธสงค์" รองชนะเลิศ พร้อมตั้งข้อหาว่าทำผิดกฎการประกวด คือใส่ขนตาปลอมและไปแต่งหน้าที่อื่น จนต้องดับไฟทั้งหมดแล้วต้อนนางงามเข้าไปหลังเวที จากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินต่อไป
ขณะที่ แสงระวี กล่าวว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนิดหน่อย เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ระหว่างเกิดเหตุวุ่นวายยังครองสติได้ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เพราะช่วงเก็บตัวก็ยังรักกันดี ส่วนเรื่องขนตาปลอมยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ทำไปเพราะไม่ทราบกฎ แต่เมื่อทราบก็ได้ถอดออกในช่วงเดินชุดอาบน้ำ (สมัยนั้นใช้คำนี้) ส่วนดั้งที่โด่งนั้นยืนยันว่าเป็นของจริง
"ไม่คิดท้อแท้ใจ จะสู้ต่อไปยังเวทีประกวดนางงามโลกในต่างประเทศ" มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2529 กล่าวในวันนั้น
ภาพประวัติศาสตร์ ที่เกิดจากศึกสาวงาม 2 ขั้ว
ต่อมา ได้มีการแถลงข่าวถึงเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น จากกลุ่มผู้ประกวด โดยเหล่าสาวงามในเหตุการณ์วันนั้น โดยมี น.ส.สิริวรรณ หวังวิไล เป็นตัวแทน กล่าวว่า ข่าวได้นำเสนอคลาดเคลื่อนว่ามีการ "กระชากมงกุฎ" เนื่องจากไม่พอใจคำตัดสิน เรื่องนี้ขอชี้แจงว่า ระหว่างเกิดเหตุชุลมุนนั้น มงกุฎของแสงระวีตกพื้นเอง จากนั้นมีเพื่อนนางงามเก็บได้และมีการส่งต่อผ่านมือหลายคน กระทั่งไปอยู่กับมือของเพื่อนอีกคนจนเข้าใจว่าเป็นการกระชาก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกลุ่มช่างภาพที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างยืนยันว่า เห็นการกระชากมงกุฎจริง ถึงกับท้าพิสูจน์ด้วยรูปถ่าย
ศึกขาอ่อน "จันทบูร" ครองมงกุฎ 14 ชั่วโมง
จากศึกเวทีใหญ่ คราวนี้ถึงคิวเวทีท้องถิ่น เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2531 ช่วงปีใหม่ ของหลายพื้นที่ในสยามประเทศ ก็มักจะจัดงานประกวดนางงาม เช่นเดียวกับเวที "จอมขวัญจันทบูร" ผู้ชมนับหมื่นแห่แหนมาชมการประกวด ตั้งแต่เริ่มกระทั่งประกาศผล ผู้ชนะเลิศและขวัญใจสื่อมวลชนตกเป็นของ น.ส.ชนิดาพร อินทร์เอี่ยม วัย 20 ปี
เวลาผ่านไป 14 ชั่วโมง ได้มีเสียงกรรมการออกมาทักท้วงคำตัดสิน นายสมพงศ์ พันธุ์สุวรรณ ผู้ว่าฯ ขณะนั้นจึงจัดการประชุม ซึ่งผลสรุปออกมาว่า ผลรวมคะแนนด้วยคอมพิวเตอร์ผิด จึงกลับคำตัดสินให้ น.ส.เจริญศรี อานาภรณ์ เป็นผู้ครองตำแหน่งแทน...คนไม่ผิด ผิดที่คอมพิวเตอร์คำนวณพลาด!!?
เมื่อผลเป็นเช่นนี้ ผู้ชนะ เจ้าของมงกุฎ 14 ชม.ถึงกับร่ำไห้ น้ำตาพรั่งพรูออกมา บอกว่าเรื่องนี้มีเรื่อง "ตุกติก" ให้ไปถาม คุณนายรองผู้ว่าฯ ซึ่งต่อมา คุณนายรองผู้ว่าฯ ก็ได้ยืนยันได้ให้การช่วยเหลือนางงามทุกคน ใครมีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือตลอด เช่น ไปจ้างช่างแต่งหน้ามาให้ หรือแม้แต่ชุดราตรีไม่เสร็จก็เป็นคนหาชุดให้
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ก็จบลงแบบเจ็บๆ ของ นางงาม 14 ชั่วโมง…
กบ-ปภัสรา คือผู้ชนะ แต่กลับถูกมือมืดทำลายข้าวของ
ฉากหลังเวทีเดือด บุกห้อง ทำลายข้าวของ "กบ-ปภัสรา ชุตานุพงษ์"
พาดหัวย่อยดังกล่าวข้างต้น...มิใช่ละคร "สงครามนางฟ้า" หรือ ละครริษยาที่มักนิยมนำมารีเมค เรื่องนี้ถูกบันทึกอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์วงการขาอ่อนบ้านเรา กับเวที ประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ เมื่อปี พ.ศ. 2531 หลังจากเก็บตัวกันมาเป็นแรมเดือน กระทั่งถึงวันชิงชัย ผลปรากฏว่า ผู้คว้ามงกุฎในวันนั้น คือ กบ-ปภัสรา ชุตานุพงษ์ ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ น.ส.ริสา หงส์หิรัญ และรองอันดับ 2 คือ พิมพ์ผกา เสียงสมบูรณ์
ผลการตัดสินดังกล่าวคือ "ฉากหน้า" ของการประกวดครั้งนี้...แต่เมื่อคล้อยหลังปิดม่านเหตุวุ่นๆ ก็ตามมาทันควัน เมื่อมีรายงานว่า ได้มีกลุ่มนางงามตกรอบกลุ่มใหญ่ไม่ยอมรับคำตัดสิน รวมตัวประท้วงที่หลังเวที แต่ยังดีที่มีกลุ่มพี่เลี้ยงมาคอยห้ามปรามทำให้เรื่องไม่ลุกลาม เหมือน 2 ปีก่อน...
กบ-ปภัสรา เป๊กกี้ ริสา และ หมู พิมพ์ผกา ล้วนโลดแล่นในวงการบันเทิง
แต่เมื่อกลับมาถึงห้องพักที่โรงแรม ทีมงานได้จัดห้องพักให้ใหม่เพื่อให้กับมิสไทยแลนด์เวิลด์ ซึ่งก็มีสาวงามหลายๆ คนมาร่วมแสดงความยินดี...แต่พอรุ่งเช้า เมื่อ น.ส.ปภัสรา กลับเข้ามาอีกครั้งก็พบสภาพห้องถูกรื้อกระจุยกระจาย เสื้อผ้าที่แขวนไว้ถูกกองลงที่พื้น กระเป๋าสตางค์ สร้องคอทองคำหนัก 2 สลึง พระเลี่ยมทอง แม้แต่กางเกงในก็หาย ส่วนคทาเพชร ถูกทิ้งอยู่ในส้วมสภาพคล้ายถูกทุบ
ขณะที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าไม่ติดใจอะไร และไม่ไปแจ้งความด้วย แต่เพียงอยากได้บัตรประชาชนคืนเท่านั้น...
ทั้งหมดนี้คือเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ปัจจุบันยากที่จะเห็นเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น แต่...ทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เวทีนางงาม ควรจะเป็นเวทีที่คู่ควร และสง่างาม ใช่หรือไม่...
ขอบคุณคลิป - ผู้ใช้ยูทูป mrredhatter และ 612breakfas
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด