สถิติการว่างงานช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 8.7 แสนคน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาด และเมื่อแบ่งตามระดับการศึกษา พบว่าระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานสูงสุดคือร้อยละ 3.63 รองลงมาคือปวส. ร้อยละ 3.16 (ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)
ทั้งนี้ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ ย่อมเป็นผลให้อัตราการจ้างงานลดลง แต่จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีงานให้สมัครเลย สังเกตไหมครับ ทั้งในเว็บสมัครงาน หรือแม้แต่ในกลุ่มหางานออนไลน์อย่าง Facebook ก็ยังมีประกาศงานอัปเดตใหม่ทุกวัน แถมมีหลากหลายอาชีพ ทั้งตำแหน่งที่จำกัดคุณสมบัติเฉพาะเจาะจง และตำแหน่งที่ไม่จำกัดคุณสมบัติเท่าไร แต่ต้องดูด้วยนะครับว่างานนั้นเชื่อถือได้รึเปล่า
ประเด็นแรกเลยคือ ถ้าคุณกำลังหางาน ก็ต้องคอยติดตามอัปเดตประกาศงาน อย่างที่กล่าวข้างต้นเลยครับ ตามช่องทางต่าง ๆ มีลงประกาศทุกวัน ฉะนั้นอีกมุมหนึ่ง งานอาจจะไม่ได้หายากขนาดนั้น แต่อยู่ที่ว่าจะเข้าไปหาและสมัครทันรึเปล่า เพราะงานส่วนใหญ่เปิดรับไม่นานก็ปิดแล้ว คนหางานมีเยอะมาก ใครเห็นก่อน สมัครก่อน ย่อมมีสิทธิ์ได้งานก่อนครับ
แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กับการติดตามอัปเดตงาน คือการเลือกสมัครงานที่ตรงความสามารถตัวเองด้วยครับ เมื่อเจอประกาศต้องอ่านข้อมูลทั้งหมดให้ละเอียด
บางงานดูเหมือนจะไม่จำกัดออะไร เช่น รับวุฒิป.ตรี ทุกสาขา แต่รายละเอียดอาจระบุว่าต้องสื่อสารภาษาจีนได้ ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่ามีวุฒิป.ตรี แล้วจะถูกเรียกสัมภาษณษ์ทุกคน ถ้าไม่ได้ภาษาจีนแล้วส่งเรซูเม่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ
แต่ถ้าคุณสมบัติและความสามารถตรงตามที่เขาประกาศ เรซูเม่ของคุณก็ต้องมีข้อมูลนั้นแสดงให้เห็นชัดเจนด้วยครับ เพราะเรซูเม่คือสิ่งเดียวที่จะสื่อสารกับ HR ได้ว่าคุณคือคนที่ใช่ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาใช้พิจารณาเพื่อเลือกคนมาสัมภาษณ์ด้วย
ส่วนการหว่านเรซูเม่ไปสมัครหลายที่ คุณจะมีโอกาสก็ต่อเมื่อ คุณสมบัติและความสามารถที่คุณระบุในเรซูเม่นั้นตรงตามที่เขาประกาศ... จริง ๆ การส่งไปหลายที่ไม่ผิดครับ แต่เพื่อโอกาสได้งานมากที่สุด คือต้องอ่านประกาศให้จบและข้อมูลในเรซูเม่ที่ส่งก็ต้องตรงตามที่เขาต้องการ ซึ่งแต่ละบริษัทก็กำหนดคุณสมบัติคนทำงานที่ต่างกันอยู่แล้วนะครับ
ดังนั้น เรซูเม่ฉบับที่เขียนเพื่อสมัครบริษัท A ก็จะไม่เหมาะในการนำไปสมัครบริษัท B เพราะบริษัท B ต้องการคุณสมบัติอื่นที่ต่างไป ซึ่งถ้าคุณมีคุณสมบัตินั้นก็ต้องเขียนเพิ่มในเรซูเม่ก่อนครับแล้วค่อยส่งไป เช่นนี้โอกาสได้งานก็จะมีมากขึ้นอย่างแท้จริง อย่ามัวใช้เรซูเม่ใบเดิมส่ง ๆ ไปครับ คุณกำลังเข้าใจผิดคิดว่าเดี๋ยวก็ได้เอง แต่จริง ๆคือ จะได้แค่รอเสียเวลาเปล่าเลยครับ
และเมื่อถูกเรียกสัมภาษณ์แล้ว อย่าไปตัวเปล่านะครับ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมไปโชว์ทักษะความสามารถให้เต็มที่ ทำความรู้จักบริษัท ศึกษาตำแหน่งงานที่สมัครให้ดี หน้าที่ความรับผิดชอบและทักษะหลักที่ใช้ทำงานคืออะไร กลับไปดูในประกาศเลยครับ เช่น Call Center อาจมีทดสอบการพิมพ์ดีด ถ้าพิมพ์ช้าเกินไป ต้องมานั่งมองแป้นแล้วจิ้มทีละตัว อันนี้ก็คงไม่ผ่านครับ
โดยสรุปแล้ว คนที่พร้อมทำงานตามหน้าที่ทั้งหมดของตำแหน่งนั้น จะมีโอกาสได้งานสูงสุดครับ หรือย่างน้อย หากทักษะไหนที่ยังไม่พร้อมเท่าไร ก็ควรอยู่ในระดับที่เรียนรู้เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่ไม่มีพื้นฐานอะไรมาเลย ดังนั้น ขอย้ำเลยว่า การเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์สำคัญมาก ต้องพร้อมมากที่สุด ต้องโชว์ให้เต็มที่ อย่าลืมว่า คู่แข่งของคุณมีไม่น้อยเลยครับ
7 ขั้นตอนเขียนเรซูเม่ ฉบับคนต้องการงานด่วน ภายใน 14 วัน คลิกอ่านเพิ่มเติม >> https://jobbkk.com/go/Px3Ol
เทคนิคการเขียนประสบการณ์ในเรซูเม่แบบลงรายละเอียด เพิ่มโอกาสได้สัมภาษณ์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ คลิกอ่านเพิ่มเติม >> https://jobbkk.com/go/kWPOA
การใส่คีย์เวิร์ดทรงพลังในเรซูเม่ ดึงดูดให้ HR เรียกสัมภาษณ์ทันที คลิกอ่านเพิ่มเติม >> https://jobbkk.com/go/4gPmO
5 ข้อต้องตรวจสอบ งานแบบไหนเชื่อถือได้ ไม่หลอกลวง คลิกอ่านเพิ่มเติม >> https://jobbkk.com/go/A7KRh
มีโอกาสได้งานทันที คลิกสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี
หางานด่วน เปิดรับกว่า 149,635 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด