สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าดูถูกตัวเองครับ เพราะถ้าเรายังไม่ให้กำลังใจตัวเอง จะทำอะไรมันก็ท้อไปหมด ยังไงแล้ว ไม่มีใครสามารถให้กำลังใจเราได้ตลอดเวลา เราเท่านั้นต้องสร้างเอง เพื่อให้ทุกวันของเรามีแต่ความสุขครับ
การหางานไม่ว่ายุคไหนก็ยากทุกคน ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ส่งเรซูเม่หลายบริษัทแล้วไม่มีเรียกสักที แม้เห็นใครได้งานหรือได้สัมภาษณ์ ก็ไม่ได้แปลว่า เขาสมัครแล้วได้ทันที หรือไปสัมภาษณ์รอบเดียวก็ผ่านเลย หลายคนล้วนเคยอยู่ในจุดรอ บางคนก็ไม่นานมากหรือนานจนเกือบถอยหลายรอบ แต่ก็ต้องก้าวผ่านจุดนั้นให้ได้แล้วสู้ต่อ ถ้ามัวโทษหรือดูถูกตัวเอง เราอาจได้แค่รอไปอีกนานเท่าไรไม่รู้เลยครับ
ความหมายที่ว่า ต้องสู้ต่อ ...?
ต้องหาข้อผิดพลาดของเรา สิ่งสำคัญที่ทำให้ได้งานคือ บริษัทเห็นว่าความสามารถของผู้สมัครตรงกับงาน ดังนั้น ถ้าส่งไปสมัครหลายที่โดยไม่อ่านประกาศงานให้ละเอียด ว่าคุณสมบัติที่เขาต้องการ ตรงกับความสามารถของเรารึเปล่า ? ชื่อตำแหน่งงานเหมือนกัน แต่คุณสมบัติคนทำงานที่แต่ละบริษัทกำหนดก็แตกต่างกันครับ การอ่านแค่ชื่อตำแหน่งแล้วส่งเรซูเม่รัว ๆ เป็นเหตุหลักที่ทำให้ไม่ถูกเรียกสัมภาษณ์เลยครับ เว้นแต่ว่าโชคดีจริง ๆ งานนั้นดันตรงกับเรา ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ
อีกอย่างคือ เมื่อเจองานตรงความสามารถแล้ว ต้องกลับไปดูเรซูเม่ด้วยว่า เราเขียนความสามารถนั้นลงไปรึยัง? ถ้าไม่เขียนแล้วส่งไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ
ยิ่งถ้าส่งไปหลายบริษัท ก็ต้องดูด้วยว่า ในประกาศแต่ละที่ เน้นความสามารถด้านใด นั่นแปลว่า ไม่ควรใช้เรซูเม่ใบเดิมส่งไปหาทุกที่ครับ ต้องปรับเรซูเม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของบริษัทนั้นก่อน เช่น บริษัท A เน้นภาษาอังกฤษ ต้องมี Toeic XXX คะแนน เรซูเม่ก็ต้องระบุทักษะนี้พร้อมแนบใบคะแนนไปด้วย ส่วนบริษัท B เน้นทักษะการใช้ Photoshop แล้วถ้าคุณใช้เรซูเม่ที่สมัครกับ A ส่งไปหา B โอกาสได้งานกับ B ก็ศูนย์ครับ
การส่งไปสมัครหลายที่จะมีโอกาสมากขึ้นก็ต่อเมื่อ เรซูเม่ตรงกับความต้องการของทุกบริษัทที่ส่งไป ถ้ารู้อยู่คนเดียวว่าตัวเองมีทักษะตรงกับที่บริษัทต้องการ เห็นว่างานนี้แหละใช่เลย แต่ไม่ระบุในเรซูเม่ HR ก็ไม่รู้นะครับว่าเราคือคนที่ใช่ ซึ่งการเลือกคนมาสัมภาษณ์ เขาก็เลือกเฉพาะเรซูเม่ที่ตรงกับงานเท่านั้น
และอีกข้อสำคัญก็คือ HR ได้รับเรซูเม่ในแต่ละวันไม่น้อยเลยครับ ฉะนั้นเมื่อส่งเรซูเม่ไปแล้ว ควรติดต่อไปหาบริษัทโดยตรง ให้แน่ใจว่าเขายังรับคนอยู่ (จะได้ไม่รอเก้อ) ถ้ายังรับ ก็บอกไปเลยว่า ชื่ออะไร ส่งเรซูเม่ไปช่องทางไหน วันไหน เวลาไหน ให้เขาเห็นว่าเราสนใจงานนี้จริงและมีความสามารถที่พร้อมทำงาน เพิ่มโอกาสให้เรซูเม่ถูกเปิดอ่านเร็วที่สุดครับ
ลองทบทวนอีกครั้งนะครับ ว่าเราพลาดตรงไหนไป แล้วนำมาแก้ทีละส่วนให้ถูกต้อง
เมื่อรู้แล้วลงมือทำพร้อมให้กำลังใจตัวเองเสมอ เป้าหมายที่ต้องการนั้นคือ “งาน” ย่อมเป็นของเราได้ไม่ยากครับ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
7 ขั้นตอนเขียนเรซูเม่ ฉบับคนต้องการงานด่วน ภายใน 14 วัน >> https://jobbkk.com/go/Px3Ol
เทคนิคการเขียนประสบการณ์ในเรซูเม่แบบลงรายละเอียด เพิ่มโอกาสได้สัมภาษณ์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ >> https://jobbkk.com/go/kWPOA
การใส่คีย์เวิร์ดทรงพลังในเรซูเม่ ดึงดูดให้ HR เรียกสัมภาษณ์ทันที >> https://jobbkk.com/go/4gPmO
มีโอกาสได้งานทันที คลิกสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี
หางานด่วน เปิดรับกว่า 148,161 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด